การตกแต่งเรือนไทย เป็นเรื่องที่จะว่าง่ายก็ใช่ จะว่ายากก็ไม่ผิด เพราะมันมีทั้งเรื่องง่ายและเรื่องยากปนๆกันอยู่ ด้วยข้อกำหนดหลักๆที่ควรเคารพ และไม่ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะผิด concept คือเรือนไทยนี่ตัวอาคารมัน finished แล้ว ขนาดห้อง ฝาปะกน ช่องประตูหน้าต่าง มันมาแบบสำเร็จรูป และสวยงามลงตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน (อันนี้น่าจะง่าย) และไม่ควรไปทำอะไรกับมันด้วย เช่นนึกอยากจะเปลี่ยนฝาใหม่ หรือทำแผงทึบติด wallpaper อะไรทำนองนี้ ไม่ได้เลย (อันนี้น่าจะยากสำหรับบางคน เพราะทำใจไม่ได้) เสีย feeling หมด การจะตกแต่งให้สวยก็แค่หาของประดับที่เข้ากันได้ (ฟังดูเหมือนง่าย แต่บางทีของที่ต้องการนั่นหน่ะ มันหายาก ตลาดมันแคบ product มีน้อย) การติดม่านก็เลือกลักษณะของม่านและรางม่านที่ไม่ modern เกินไป สีสันกลมกลืน และจัดไฟให้ดู cozy หน่อย แต่ไม่มืดจนเกินไป จนเข้าข่าย วังเวงน่ากลัว (ไม่น่าจะยาก) เช่นนี้เป็นต้น

การจัดห้องอาจจะทำง่ายปนยาก เพราะขนาดของเรือนไทยนั้นมีขนาดจำกัด ค่อนข้างเล็ก มักจะต้องเลือกใช้งานเฉพาะอย่างไปเลย (ทำใจหน่อย) จะให้ใช้งานอเนกประสงค์แบบบ้านหลังใหญ่ๆไม่ได้ เช่นจะใช้เป็นห้องนอนก็ทำเป็นห้องนอนเพียงอย่างเดียว อย่างนี้จะง่าย แต่ถ้าอยากจะทำเป็นห้องทำงานด้วย มีห้องน้ำในตัวด้วย อันนี้เริ่มยาก หลายปัจจัยแล้ว จะเอาเฟอร์นิเจอร์หลายๆอย่างยัดเข้าไปมันก็จะคับแคบ จะดัดแปลงทำห้องน้ำอย่างสมัยใหม่ มันก็ทำยากซะด้วย

เรื่องเครื่องเรือน ก็เป็นอะไรที่ยากพอสมควร เนื่องจากตลาดแคบ ความนิยมมีจำกัด ผู้ผลิตจึงไม่ค่อยผลิต product อะไรที่ตอบสนองความต้องการทางนี้ อีกทั้งเครื่องเรือนของไทยเองนั้นก็ไม่ค่อยมีการพัฒนารูปแบบให้ตอบสนองต่อประโยชน์ใช้สอยสมัยใหม่ จึงทำให้ไม่ค่อยมีสินค้าแนวนี้ให้เลือกซื้อมาตกแต่งเรือนไทยกันนัก จะมีแต่ของเดิมๆ รูปแบบเดิมๆ ไม่ค่อย practical นักกับการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่นพอพูดถึงชุดรับแขก ทุกคนก็คงเห็นภาพชุดไม้แกะสลักจากเชียงใหม่โน่น ที่ทำจากไม้สักแกะสลักทั้งตัว หนักๆทึบๆ นั่งก็ไม่สบาย หรือเตียงนอนก็ไม่มีรูปแบบเตียงนอนไทยที่เป็นเรื่องราวนัก เพราะโบราณเขานอนเสื่อนอนฟูกกับพื้น ต้องไปใช้เตียงจีน หรือเตียงเหล็กของฝรั่ง เอามาผสมผสาน ที่ออกแบบสมัยใหม่และพอเข้ากันได้หน่อยก็เป็นประเภทเตียงขาคู้แบบตั่ง และก็ยังไม่มีรูปแบบอื่นๆให้เลือกได้มากนัก ที่ยากที่สุดเห็นจะเป็นตู้เสื้อผ้า เพราะมันต้องมีขนาดใหญ่พอสมควรสำหรับคนสมัยใหม่ แต่เรือนไทยนี่การทำตู้ built-in มันยากพอสมควรที่จะทำให้สวย เพราะขนาดห้องก็ไม่ค่อยอำนวย และรูปแบบก็จำกัดนี่จึงเป็นความยากอีกอย่างหนึ่ง ที่จะแต่งเรือนไทยให้สวยและน่าอยู่

คนที่ชอบของเก่าก็ยังพอกล้อมแกล้มไปได้ เดินหาซื้อของเก่ามาใช้ แต่งให้ผสมกลมกลืนกันไป เน้นเรื่องโทนสีของไม้หน่อย เพราะไม้นั้นมีหลายชนิด หลายโทนสี ถ้าหลากหลายมากๆแก่บ้าง อ่อนบ้าง ก็ดูไม่สวย ไม่เข้ากัน สู้แบบเฟอร์นิเจอร์ไม่เข้ากันเป็นไทยมั่ง จีนมั่ง พม่ามั่ง ฝรั่งมั่ง แต่สีดูกลมกลืนกัน บางทีดูภาพรวมกลับสวยกว่าเสียอีก

ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดเรื่องของเฟอร์นิเจอร์บ้าง แต่ก็ยังมีรูปแบบให้ทำได้หลายอย่างพอประมาณ เช่น จะเอาแนวหรูๆ แนวเรียบง่ายสมถะ หรือแนวร่วมสมัยก็ยังพอทำได้ ไม่จำกัดรูปแบบจนเกินไปนัก อยู่ที่ตัวเรามากกว่าว่าเป็นคนชอบแบบไหน แต่อย่างน้อยให้ใช้งานได้ดี อยู่สบาย ถึงขาดๆเกินๆบ้างก็ไม่เสียหายอะไร คิดเสียว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ perfect ก็แล้วกัน

ห้องนั่งเล่นหรือรับแขก แบบแรกจะใช้เฟอร์นิเจอร์เชียงใหม่ แบบยอดนิยม ของบ้านนี้จะออกแบบให้นั่งสบายขึ้นด้วยเบาะที่ดูสวยหน่อย เสริมเอกลักษณ์ด้วยผ้าไทย รูปแบบกลางๆพอดีๆ

ห้องรับแขกห้องนี้จะเน้นตกแต่งด้วยตั่งแบบพม่าและงานพุทธศิลป์ที่เป็นลวดลายทอง ทำให้ดูหรูหราอลังการขึ้น แต่การใช้พระพุทธรูปมาเป็นส่วนประกอบประดับ ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะเป็นค่านิยมแบบฝรั่ง ที่ไม่ได้นับถือพุทธศาสนา พระพุทธรูปควรวางอยู่ในส่วนที่เหมาะสมกว่านี้

ห้องนี้เป็นโถงใหญ่ ใช้รับแขก ที่นั่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ลูกผสม คือทรงฝรั่ง แต่ฝังมุกแบบจีน โทนสีพอเข้ากันได้ แต่การใช้เฟอร์นิเจอร์ประดับมุกต้องเลือกพอสมควร ไม่ควรให้มีลายมุกมากๆ เพราะเวลาใส่เข้าไปแล้ว จะทำให้ feeling ของห้องดูเป็นจีนไปเลย

ห้องนอนนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมาก จัดวางเฟอร์นิเจอร์ง่ายๆ ติดรางม่านไม้เรียบๆ เข้าใจเลือกสีเขียวเข้มที่ดูกลมกลืนกับสีไม้มาก และไม่ต้องตกแต่งผนังอะไรเลย มีเพียงภาพเล็กๆ แต่ดูดีมากๆ

ห้องนอนนี้กว้างหน่อยมีส่วนแต่งตัวอยู่ด้วย แต่เฟอร์นิเจอร์เลือกใช้ของเก่าของพม่าที่รูปแบบเป็นอิทธิพลจากอังกฤษ แต่ก็ดูกลมกลืนกันดีกับเรือนไทย

ห้องนี้ก็แนวทางอย่างห้องแรก แต่ใช้ส่วนประกอบคือพวก upholstery เป็นอีกโทนสีหนึ่ง

ห้องอาหารขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เป็นห้องประชุมได้ ใช้ลักษณะการยกพื้นของเรือนไทยมาใช้ยกแท่นและวางทับด้วยเก้าอี้ญี่ปุ่น ก็ดูกลมกลืน ร่วมสมัยดี

ส่วนนั่งเล่นในชานเรือน ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักแกะสลักแบบยอดนิยม เน้นสีสันด้วยหมอนอิงเพิ่มบรรยากาศ ไม่ให้ขรึมจนเกินไป

มุมนอกชานใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่ ดูง่ายๆสบายๆ ไม่เป็นทางการ

ส่วนใต้ถุนบ้านก็เป็นมุมสบายอีกมุมหนึ่ง บ้านนี้ใช้เก้าอี้หวายแบบสมัยใหม่ ก็ยังเข้ากันได้ ไม่ขัดเขิน

ห้องพระห้องนี้ใช้เรือนเล็กมาทำจึงมีขนาดกะทัดรัด พอดีกับโต๊ะหมู่ชุดใหญ่ ก็ไม่ต้องไปตกแต่งอะไรมากมายเลย ติดไฟผนัง แขวนไฟเพดาน แค่นี้ก็ดูขรึม สงบ และศักดิ์สิทธิ์ดี

ห้องน้ำนี่แหละเป็นส่วนที่ยากกว่าเพื่อน ต้องหามุมลงให้ได้ นี่ก็ใช้นอกชานมาดัดแปลง ทำเคาน์เตอร์ไม้ตกแต่งด้วยไม้ไผ่สานแบบพื้นๆ แต่ดูดี ต้องระวังเรื่องระบบน้ำอย่าให้รั่วซึมเท่านั้น เพราะไม้นี่ไม่ถูกกับน้ำ

นี่ก็ใช้มุมเล็กๆมาทำอ่างล้างหน้า ปิดท่อน้ำทิ้งด้วยรางไม้ ใช้เก้าอี้จีน

ห้องน้ำแบบไทยๆใช้ตุ่มแบบจ้วงเอาๆ ห้องนี้ก็จะใช้งานไม่ค่อยสะดวกนัก เนื่องจากดัดแปลงมา ระบบการระบายน้ำจะยุ่งหน่อย เพราะส่วนอาบน้ำควรจะลดระดับลงไป ไม่ใช่เป็นแท่นขึ้นมา น้ำจะนองไปหมด ถ้ายาแนวกระเบื้องไม่ดี น้ำจะรั่วซึมได้ง่าย และการทำความสะอาดนี่ก็คงเอาการอยู่

ตอนนี้ว่ากันเป็นหลักใหญ่ใจความแบบรวมๆและสรุปย่อก่อน ตอนต่อๆไปจะค่อยว่าเรื่องละเอียด และเจาะลึกกันไปเป็นจุดๆมากกว่านี้ครับ

ที่มา :
http://travelaround.bloggang.com/

ใส่ความเห็น